Tuesday, February 14, 2017

4 ทางลัดเก่งอังกฤษ



4 กลยุทธ์ง่ายๆ ในการเรียนภาษาอังกฤษ

เทคนิคง่ายๆที่จะทำให้ตัวเองเก่งอังกฤษได้ในเวลาไม่นาน วันนี้ขอนำมาฝากไว้สัก 4 ข้อนะครับผม ขอย้ำว่าอันนี้เป็นเทคนิคจากผมเอง ผมทำแล้วได้ผลจริงๆ ถ้าทุกคนเอาไปใช้อย่างครบถ้วนก็น่าจะพัฒนาได้ดีเลยครับ

ทักษะภาษาอังกฤษมี 4 อย่าง คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ฝึกอย่างละ 15 นาที ก็น่าจะแข็งแรงขึ้นมากครับ

1. การฟัง

การพัฒนาการฟังง่ายมากครับ เป็นทักษะที่ทำได้โดยใช้อินเตอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์ เปิดยูทูปครับ ผมแนะนำช่องที่จะให้ประโยชน์กับคุณสักนิดละกันนะครับ


  1. TED.com ช่องนี้มีสาระและฝึกภาษาอังกฤษได้แน่นอน อยากเป็นคนมีของ อยากได้แรงบรรดาลใจก็ลองมาชมได้ครับ ผมเองก็รู้สึกว่ามีแรงบรรดาลใจ และอยากจะสานฝันของตัวเองครับ ช่องนี้จะสอนเราว่าคนฉลาดๆประสบความสำเร็จกันยังไง หน้าที่ของเราแค่ฟังแล้วเอามาคิดตามต่อยอดครับ ผมให้คะแนนเต็มเลยสำหรับช่องนี้
  2. Buzz Feed Yellow หากต้องการความสนุก ความทันสมัย วัยรุ่นหน่อย เชิญช่องนี้ครับ เนื้อหาในช่องจะเป็นเนื้อหาที่วัยรุ่นหนุ่มสาวของเมืองนอก จะว่าออกแนวไร้สาระก็ไม่เชิง ผมว่าผมได้อะไรเยอะเหมือนกัน แล้วมันก็เพลินดี แต่ละหัวข้อจะมีแนวคิดข้อคิดให้เราเสมอๆ 
  3. Life Noggin ถ้าพูดถึงความสุดติ่งแล้ว ก็คงไม่พ้นช่องนี้ครับ การนำเสนอเรื่องราวต่างๆจากคำถามที่ฟังดูหลุดโลกแต่อิงทฤษฎีจากความจริง ผมดูแล้วก็อู้หูว้าวว คนเรามันต้องจริงจังกับเรื่องนี้ขนาดนั้นเหรอ แต่ผมชอบครับ มีสาระ(แบบหลุดๆ) แต่ไม่เครียด
2. การพูด 

ต้องขอบอกก่อนว่าตัวผมเองไม่เก่งในด้านการพูด คือผมพอรู้ศัพท์แต่ไม่ถึงกับพูดได้ ผมรู้หลายคนเป็น ติดอยู่ที่ปากเนี่ย ถึงเวลาจริงๆกลับพูดไม่ออก ผมมาเริ่มพูดได้ช่วงมหาลัยนี่เองครับ รู้สึกว่าเราต้องพูดให้ได้ ก็เลยลองโหลดแอปคุยกับฝรั่งครับ มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียนะ 

เช่น tinder / snapchat / chatous / meowchat และอีกเยอะแยะมากมายให้เลือกแล้วแต่รูปแบบความชอบครับ อย่างผมตัวที่ชอบก็จะเป็น chatous พอเรารู้จักกันดีก็ค่อยแลกสไกป์คุยกัน สนุกดีครับ

ข้อดี : เราจะเจอคนที่ไม่ดี บทสนทนาแบบ 18+ มันจะวิ่งเข้ามาหาเราอยู่เรื่อย (ซึ่งอาจจะชอบ หรือป่าว? 555)

ข้อเสีย : การที่เขาอยู่ไกลเรามันก็ดีครับ เราปลอดภัย ไม่ต้องคอยเกรงใจเรื่องตอบช้าด้วย (เพราะเวลาเราไม่เท่ากัน 555)

3. การอ่าน

ฝึกการอ่านนี่ยากนิดหน่อยนะครับ ผมเองเริ่มจากหนังสือ Oxford ที่เขามีให้เลือก Level ผมชอบมากครับ ช่วงแรกเห่อมากๆ ซื้อมาเป็นตั้ง บางเล่มเป็นเกมให้พลิกไปพลิกมา บางเล่มให้อ่านไปเรื่อย เป็นสีๆ ไม่เบื่อครับ ผมชอบสะสมด้วย เล่มน่ารักมากๆ ชอบที่สุดคือคือมันบางมาก อ่านไม่นานก็จบครับ 

ถ้าใครแอ๊ดว๊านซ์หน่อยจะลองเลือกอ่านนิยายภาษาอังกฤษก็ได้ครับ แต่ผมต้องขอบาย อ่านยาวๆไม่ไหว หลับแน่นอน

ทางเลือกอื่นๆยังมีให้สำหรับคนที่ไม่อยากซื้ออะไรเป็นชิ้นจริงจังขนาดนั้น ลองหนังสือพิมพ์ หรือเพจตลกๆ 9GAG ของฝรั่งก็สนุกดีครับ ลองเริ่มจากมุขตลก เราจะได้ศัพท์เยอะมากครับ

4. การเขียน

ขอยอมรับว่าเรื่องนี้ยากที่สุดครับ ผมเองเขียนไดอารี่ให้แฟน โดนบังคับ T^T เหมือนโดนทำรายงานประจำวันครับ แต่ว่าเพื่อนๆครับ เชื่อไหมว่าทักษะการเขียนนี่มันทำให้เราพูดเก่งขึ้นด้วย เราจะรู้สึกว่าการเลือกใช้คำมันสละสลวยและง่ายขึ้น ไม่ต้องคิดนานๆ เชื่อผมครับ เขียนไดอารี่ให้แฟน เวิร์คสุด 

สำหรับคนไม่มีคู่ ลองเขียนการ์ดให้เพื่อนหรือโพสสเตตัสในเฟสบุ๊คเป็นภาษาอังกฤษทุกๆ 1 ชั่วโมงครับ เอาแบบง่ายๆสั้นๆ สักโพสละ 3 บรรทัดก็เจ๋งนะครับ ลองคิดว่าจะเอาคำอะไรมาโพสดี ถ่ายรูปแล้วสร้างแคปชั่นก็ก่อกวนเพื่อนได้ดีเหมือนกันนะครับ ^^

ทางลัดแบบลัดสุดๆก็คือ "ไปเรียนเถอะครับ" เขาจะมีเคล็ดลับที่ทำให้คุณเข้าใจง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้ความพยายามเยอะ แต่สุดท้ายเหมือนกันกับที่ผมว่าคืออะไรรู้ไหม เขาสรุปให้คุณดีขนาดไหน คุณก็ต้องฝึกเองทบทวนเองอยู่ดี

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ

สุดท้ายแล้วก็ต้องขอสรุปง่ายๆให้ได้ใจความเลยนะครับว่า การใช้ภาษาอังกฤษจะเก่งขึ้นได้ต้องหมั่นฝึกฝนบ่อยๆครับ ไม่มีทางลัดที่ไม่มีคำว่าฝึกหรอกครับ มันเป็นสกิล คุณพอนึกออกไหมว่าขนาดเล่นเกมก็ยังต้องใช้เวลาเพื่อที่จะเก็บเลเวล สะสมสกิลไว้ใช้ตอนจำเป็น ต้องไปตีบอทกี่รอบ (อุ่ย นอกเรื่องแล้ว)

งั้นขอลาไปก่อน ขอให้เพื่อนๆสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษนะครับ 

0 comments:

Post a Comment